วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

ทำไมชอบนั่งสมาธิ

...ทุกๆครั้งที่ได้นั่งสมาธิ ความรู้แรกที่ได้รับ คือการรับรู้ถึงอิสระปลอดจากพันธนาการใดๆ ไร้ห่วงไร้กังวลทั้งปวง มีความสุขจนไม่อยากจะลุกไปไหน มีความสุขอยู่เพียงอาสนะเดียวหรือเก้าอี้หนึ่งตัวเท่านั้น แม้จะอยู่คนเดียว ก็ไม่กลัวไม่เหงาเลย มีแต่ความสงบเต็มล้นในใจ
...ส่วนผลที่ได้จากการนั่งสมาธิคือ ทำให้ผมมีการจัดระบบความคิดที่ดีขึ้น ใจเย็นขึ้นจากที่เป็นคนใจร้อน ทำอะไรต้องทำให้ได้ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร หรือเรื่องที่ต้องไตร่ตรอง ผมจะไม่รีบร้อน รู้จักทำใจให้เย็นให้สบายเสียก่อน และค่อยๆคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และคิดวิธีไว้หลายๆทางด้วยความไม่ประมาท สุดท้ายทุกๆสิ่งก็ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย
...แม้แต่อาการป่วยของผม ซึ่งผมป่วยเป็นโรคกระดูกตั้งแต่เด็ก การนั่งสมาธิช่วยให้อาการดีขึ้นในระดับหนึ่ง เพราะปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบอย่างก็คือ"ความเครียด" พอนั่งสมาธิบ่อยๆใจก็เย็นขึ้น และไม่เครียดอะไรง่ายๆ ไม่คิดมาก อาการป่วยจึงค่อนข้างสงบไม่ค่อยกำเริบ และยังทำให้ผมมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคภัย ใช้ชีวิตอยู่กับมันเหมือนเป็นเรื่องปกติ มีความสุขไม่ต่างจากคนธรรมทั่วไปเลย
...ที่สำคัญอีกอย่าง การนั่งสมาธิทำให้ปล่อยวางได้ ไม่ว่าเรื่องดีไม่ที่เข้ามาก่อกวนจิตใจ ทำให้รู้จักให้อภัยคนอื่นมากขึ้น รู้จักเห็นใจคนอื่นมากขึ้น ไม่ว่าจะสูญเสียอะไรก็ไม่เอามาเป็นทุกข์
....เช่นกรณีที่ไฟไหม้บ้านผมเมื่อสามปีก่อน ไหม้จนไม่เหลืออะไรเลย เหลือแค่ชีวิตเท่านั้น แต่ผมไม่เครียดเลย ค่อยหาวิธีแก้ปัญหาทีละเรื่อง ซึ่งมีคนคอยให้ความช่วยเหลือตลอดเวลาอย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าในเรื่องอะไรก็ตาม เพียงไม่กี่เดือนชีวิตก็กลับมาเป็นปรกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไฟไหม้ครั้งนั้นอาจจะพรากทรัพย์สินเราไป แต่ทำอะไรจิตใจเราไม่ได้เลย
...เมื่อใจมีสมาธิไม่ว่าอุปสรรคน้อยใหญ่ เราย่อมมีกำลังใจ ฝ่าฟันไปจนสำเร็จทุกๆครั้ง สมาธินั้นสามารถสรรค์สร้างกำลังได้เป็นอย่างดี อยากให้ทุกท่านลองสละเวลาสักครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง มาให้รางวัลกับใจ ด้วยการหยุดใจ ทำใจใสๆกันนะครับ แล้วคุณจะพบว่า การนั่งสมาธิดีจริงๆเลย...

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

ผมไม่ชอบวัดพระธรรมกาย

...ผมคือหนึ่งในอดีตคนที่ไม่ชอบวัดพระธรรมกาย จากการได้ยินข่าวทางโทรทัศน์เมื่อปี 2540 มักต่อว่าทุกครั้งเพียงแค่คนที่บ้านเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ผ่านช่อง "DMC"
...จนเมื่อผมเรียน ม.3 โรงเรียนพามาเข้าค่ายที่วัด มาตามทำตามเพื่อนสนุกๆ มาด้วยความระวังตัว และมา"เพื่อจับผิด" ซึ่งผม"ผิดคาด"เพราะ"ไม่มีผิดให้จับ" แต่กลับติดใจวัดเสียแล้วไม่ใช่เพราะโดนล้างสมอง แต่ติดใจในรูปแบบการอบรม ความเป็นอยู่อันเรียบง่าย ติดใจคำสอนที่ดีและเข้าใจง่าย และความเป็นระเบียบของหมู่คณะ จนต้องมาอีกเป็นครั้งที่สอง และได้มาเรื่อยๆต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งผ่านมาแล้วเป็นเวลาถึง 8 ปี
...ที่วัดพระธรรมกายมีโครงการที่ดี และมีคำสอนอันดีงามตามพระไตรปิฎกและเรียบง่ายเช่นนี้ได้ เพราะที่นี่มี"หลวงพ่อ"ที่เป็นดุจดังพระพ่อผู้เมตตา ก่อตั้งวัดและทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนามาถึง 45 ปีเต็ม จนมีผู้คนเข้าใจธรรมะ และมาปฏิบัติธรรมกันอย่างมากมาย

เพราะที่นี่ทำให้ผมเข้าใจธรรมะ เข้าใจในบุญและบาป
เพราะที่นี่ทำให้รักบุญ และอยู่ในบุญ
เพราะที่นี่ทำให้ผมมีศีล และรักษาศีลได้ดีขึ้น
เพราะที่นี่ทำให้ผมรักในการนั่งสมาธิทำใจให้สงบเพราะที่นี่มีแต่เพื่อนที่ดีเป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกัน
เพราะที่นี่สอนให้ผม"จับดีผู้อื่น"จับผิดตนเองเพื่อแก้ไข
เพราะที่นี่ทำให้ผม"เป็นคนดี"ที่ดีด้วยการปฏิบัติ

...ยิ่งเมื่อครั้งที่ผมเจอเหตุการสำคัญที่สุดในชีวิต เมื่อห้องพักผมไฟไหม้ ผมสามารถมีสติพาตัวเองกับย่าของผม ผู้ซึ่งมีพระคุณกับผมมากที่สุดออกมาได้ ซึ่งผมได้ทุกข์ใจอะไรมากมายกับเหตุการณ์นี้ เพราะการทำบุญและนั่งสมาธิช่วยให้ผมสอนตัวเองได้ และรู้จักแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีสติ สุดท้ายผมก็ผ่านมา และกลับมาใช้ชีวิตปกติในเวลาแค่เดือนเศษๆเท่านั้น...

...ถึงแม้ปัจจุบันนี้ ทางบ้านอาจยังไม่เข้าใจวัดเท่าไร แต่ก็ไม่เคยขัดขวาง เพราะวัดทำให้ผมเป็นคนดี ซึ่งปรากฏชัดแก่ครอบครัว ผมรักหลวงพ่อ และวัดพระธรรมกายมาก เพราะสอนให้ผมเป็นคนดีนี่แหล่ะครับ ผมอยากให้ทุกคนลองเปิดใจ และทำความเข้าใจ ก็จะรู้ว่า"ธรรมกาย"ไม่ใช่ใคร ก็เป็นชาวพุทธ เป็นลูกพระพุทธเจ้าเหมือนกัน....

กัลฯ ธนา  จำปาทอง

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

มาวัดพระธรรมกายครั้งแรก เพราะ???

มาวัดพระธรรมกายครั้งแรก เพราะ???

...ได้เข้าวัดครั้งแรกจากค่ายศีลธรรมที่โรงเรียนจัด ซึ่งมีสถานที่คือ "วัดพระธรรมกาย" มาตามเพื่อนๆเอาสนุกๆเฉยๆ หลังจากได้พบความสะอาด สงบ และเรียบร้อยของวัด จนติดใจต้องมาอีก
...พอได้มาก็เริ่มศึกษา ทั้งจากคำบอกเล่า ทั้งหาข้อมูล ของวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่อง ยิ่งศึกษายิ่งเกิดความศรัทธาในวัด และหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งจากที่เคยได้ยินข่าวเสียๆของวัดพระธรรมกายมาตั้งแต่เด็ก สิ่งเหล่านั้นมันไม่จริงเลย คำสอนนั้นที่ไม่บิดเบือนเลย แต่กลับเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เอามาปรับให้เข้าใจง่าย นำไปปฏิบัติก็ยิ่งง่าย หลวงพ่อธัมมชโยท่านมองการไกลมาก โครงการแต่ละโครงการของวัดพระธรรมกาย เป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง และไม่หยุดหย่อน
...ตลอดสี่สิบกว่าปี ที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านบวชมาตลอดทั้งชีวิต ท่านสร้างคุณูปการต่อประเทศชาติ และพระพุทธศาสนาอย่างไม่หยุดหย่อน จนบัดนี้คำสอนของพระพุทธศาสนากระจายไปทั่วโลกแล้วอย่างกว้างขวาง
...แม้ตัวผมเอง ถูกวัดพระธรรมกายและคำสอนของหลวงพ่อธัมมชโย ล้างทั้งสมองและจิตใจจนเกลี้ยง เปลี่ยนไปอย่างมาก จากเดิมที่ผมเป็นคนไม่กล้าแสดงออก เพราะป่วยเป็นโรคกระดูกจนพิการ ร่างกายไม่ปกติ แต่เพราะคำสอนของวัดและหลวงพ่อทำให้ผมมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคจนดีขึ้น และมีความมั่นใจจนสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง มีครั้งนึงที่ผมประสบเหตุการร้ายแรงที่สุด คือไฟไหม้ห้องพัก จนไม่เหลืออะไรเลย เหลือแต่ตัวกับเงินติดตัวนิดหน่อย แต่ชีวิตผมกลับไม่รู้สึกตกต่ำหรือย่ำแย่เลย เพราะได้คำสอนของวัดพระธรรมกาย และของหลวงพ่อธัมมชโย กับเพื่อนๆกัลยาณมิตร ที่คอยช่วยเหลือทั้งทรัพย์ และสิ่งของมาอย่างมากมาย จนผมผ่านวันร้ายๆนั้นมาได้อย่างแข็งแรง และไม่มีเลยที่ชีวิตจะตกต่ำลงไป มีแต่จะดีขึ้นตลอดๆ แม้ไม่มาก แต่ก็ดีขึ้นอย่างน่าพอใจ และยังทำให้ผมใช้ชีวิตได้ในสังคมเหมือนคนทั่วๆไป เพราะผมได้พบ ''ที่พึ่งที่แท้จริง'' คือพระรัตนตรัย...

ธนา  จำปาทอง